การเขียน Resume ภาษาอังกฤษ


 

การเขียน Resume ภาษาอังกฤษ

1. หัวเรื่องและจุดมุ่งหมายในงาน (Heading & Career Objective )

ส่วนหัวกระดาษ (Heading) ต้องระบุชื่อ  


MR. Panuwat  Phengma

Career Objective 

Installation of electrical system in the building. Can working under rules and sefe.

  

2. ข้อมูลส่วนตัว (Personal Information)

ข้อมูลส่วนตัว (Personal  Information) ถือเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งในเรซูเม่  ประกอบไปด้วยรูปภาพ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล ประวัติการศึกษา สำหรับรูปถ่ายควรเป็นรูปที่เห็นใบหน้าตรงชัดเจน และแต่งกายสุภาพเรียบร้อย เนื่องจากรูปถ่ายจะเป็นสิ่งแรกที่ HR เห็นจากเรซูเม่ของผู้สมัคร นอกจากนี้ควรตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลติดต่อกลับทั้งเบอร์โทรศัพท์ และอีเมลที่ต้องดูเป็นทางการ  

ส่วนข้อมูลที่เกี่ยวกับสัญชาติ ศาสนา น้ำหนัก ส่วนสูง และงานอดิเรกที่เราสนใจนอกเวลางาน บางคนอาจจะเลือกที่จะไม่ใส่ขอมูลเกี่ยวกับ สัญชาติ ศาสนา น้ำหนัก และส่วนสูง ถ้าต้องการให้เรซูเม่ของเราดูเป็นมืออาชีพ และถ้าข้อมูลเหล่านั้นไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเนื้องาน ดังนั้นในส่วนนี้ จะใส่เพียว ที่อยู่ เบอร์โทร อีเมล์ และงานอดิเรกที่สนใจนอกเวลางาน เท่านั้นก็ได้ แต่ถ้าเกี่ยวข้องกับเนื้องานก็จำเป็น  


ตัวอย่าง ข้อมูลส่วนตัว (Personal Information)

PERSONAL INFORMATION 

Residential Address : 136/6 M.2 T.Banlum Muang District Sukhothai 64000

Mobile : 0910268802

Email : panuwat22935@gmail.com 

Date of Birth : 12 April 2000

Nationality : Thai

Age : 18

Marital Status : Single

Interest and Activities : Volunteer at local Rescue Mission, repair and maintenance of electrical appliances and diy work enjoy surfing the internet.

 


 3. ทักษะความสามารถ (Skills)

ทักษะความสามารถ เป็นหัวข้อที่เราควรใส่ลงในเรซูเม่ (Resume) ของเรา  เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าสัมภาษณ์งาน เพราะช่วยให้เรซูเม่ของผู้สมัครดูน่าสนใจและได้เปรียบคู่แข่ง  เนื่องจากปัจจุบันนายจ้างจะเลือกดูประสบการณ์ทำงานและทักษะความสามารถของผู้สมัครเป็นหลัก ดังนั้น ใครมีความสามารถอะไร ควรใส่ให้ครบนะคะ โดยเฉพาะทักษะที่จำเป็นในตำแหน่งงานที่สมัครจะช่วยเพิ่มโอกาสในการได้งานมากขึ้น อาทิ ทักษะด้านภาษา ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาที่ 3 เช่น ญี่ปุ่น จีน เยอรมัน ฯลฯ รวมไปถึงทักษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่จำเป็นและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการทำงานได้

 

ตัวอย่าง การเขียนทักษะความสามารถ (Skills)

Skill

  • Good command of written and spoken english 

  • Ability to work under pressure conditions

  • Profcient in Microsoft word,Photoshop,Autocat

  • Typing skills: Thai, 45 words per minute |English, 30 words per minute

 

 


4. ข้อมูลทางด้านการศึกษา (Educational Background )

เขียนวุฒิการศึกษาที่เราได้รับมา และการฝึกอบรมต่างๆ หรือกิจกรรมนอกหลักสูตรที่เคยเข้าร่วม ถ้าให้ดีต้องเกี่ยวข้องกับตำแหน่งงานที่สมัครด้วย สำหรับคนที่ยังไม่เคยมีประสบการณ์ทำงานมาก่อน สามารถใช้ประสบการณ์ระหว่างการศึกษาได้ ส่วนคนที่เคยมีประสบการทำงานมาแล้วก็สามารถใส่ข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่เคยทำมาได้เลย การเขียนข้อมูลทางการศึกษา (Education) ให้เรียงจากวุฒิการศึกษสูงสุดไปวุฒติที่ต่ำที่สุด แต่ไม่ควรต่ำเกิดวุฒิมัธยมปลายหรือ ปวช. และถ้าเขียนอยู่ในบรรทัดเดียวกัน ให้เขียนเรียงลำดับจาก ช่วงเวลาที่เรียน วุฒิที่ได้รับ และชื่อสถาบัน

 

ตัวอย่าง ข้อมูลทางด้านการศึกษา (Education)


  
During high school, studied at Sukhothai Witthaya School when i graduated. Sukhothai Technical College  study majors electrical power techniques Diploma Level1

 

5. ประสบการณ์ทำงาน (Working Experience)

ในส่วนนี้จะคล้ายกับข้อมูลการศึกษา โดยเริ่มจาก ชื่อสถานประกอบการ ตำแหน่งงาน จังหวัด ประเทศ (ถ้าทำงานต่างประเทศมาก่อน) วันเดือนปีที่เริ่มทำงาน  และระยะเวลาที่ทำงานนั้น และควรใส่ขอบเขตหน้าที่ ที่เราได้รับผิดชอบขณะทำงานอยู่ด้วย หรืออาจจะจัดรูปแบบให้แตกต่างแต่อานแล้วสบายตา เข้าใจง่ายก็ได้ (ดูตัวอย่างข้างล่าง) นอกจากนั้น ถ้าเคยผ่านงานมาหลายที่ ให้เขียนงานที่ทำปัจจุบันก่อน แล้วเรียงไปจนถึงตำแหน่งงานแรก  


ตัวอย่าง ประสบการณ์ทำงาน (Working Experience)

WORK EXPEREINCE

1.March 2016 - May 2016

Internship at CP all Warehouse

2.May 2017- September 2017

Electrical repair And install electricity at Prajadhipol Electric. 



 

6. บุคคลที่สามารถอ้างอิงได้ (References)

เรซูเม่ (Resume) ภาษาอังกฤษ ที่เราเขียนจะดูมีความน่าเชื่อถือสูง ถ้าเรามีชื่อและข้อมูลการติดต่อของบุคคลที่นายจ้างสามารถสอบถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับตัวเราได้ ประมาณ 2-3 คน (ไม่ควรทำงานที่เดียวกัน และต้องไม่ใช่ญาติพี่น้องของเรา) ดังนั้นบุคคลที่สามารถอ้างอิงได้ (reference) ของเราควรเป็นหัวหน้างานเก่าหรือ หากคุณยังไม่มีประสบการณืทำงานเลย ก็ควรจะเป็นบุคคลที่เชื่อถือได้ในวงการธุรกิจ เช่น ต้องเป็นบุคคลที่มีงานมั่นคง หรือมีชื่อเสียง อาจเป็นข้าราชการ หัวหน้าหน่วยงาน อาจารย์ หรือเจ้าของกิจการ ซึ่งบุคคลเหล่านี้จะต้องรู้จักและเคยเห็นการทำงานของเราเป็นอย่างดี การเขียนให้เรียงจากชื่อ-นามสกุล (ถ้าเป็นอาจารย์ที่มีตำแหน่งต้องใส่คำนำหน้าด้วย  


ตัวอย่าง บุคคลที่สามารถอ้างอิงได้ (References)

 

REFERENCES

Mss. Nitaporn Lungka , Teacher at Sukhothai technical college Tel. 

อย่างไรก็ตาม resume ที่เราส่งไปนั้นยังไม่ต้องอ้าง reference ก็ได้แต่ให้เขียนว่า “References will be sent on request.” (หมายความว่า เอกสารอ้างอิงจะส่งให้กรณีที่ทางบริษัทร้องขอมา)


 

ตัวอย่างเรซูเม่ (Resume) ภาษาอังกฤษ



ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

การถามเกี่ยวกับวัตถุประสงค์การใช้

การเขียนจดหมายสมัครงาน (Job application letter)

การต่อรองราคา (Bargaining)